อ่านจบเดินเข้าบาร์
‘ฟรีดอม นารี เคล้าวิสกี้’
คือคำนิยามเมื่อผมอ่านงานเขียนของชายที่เหล่าชายทั้งหลายอยากเป็น ไม่งั้นก็อยากด่า ถึงปากบอกเกลียดแต่ในใจอิจฉา ไม่ใช่ด้วยเหตุผลใด แต่เพราะตัวหนังสือของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ (เอเคเอ. พญาอินทรีแห่งสวนอักษร) ศิลปินแห่งชาติมักเชิญชวนผู้อ่านให้สัมผัสวรรณกรรมที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นฉุนของสุราชั้นดี เสียดสีคนมี สูดดมคาวโลกีย์ และส่วนโค้งเว้าของนารีอย่างละเมียด สะท้อนภาพชีวิตของความเป็นหนุ่มเสเพล ฮิปปี้ กวนส้นมือ อย่างมีรสนิยม
หากจะค้นประวัติของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ หรือ ณรงค์ วงษ์สวรรค์ ท่านไปกูเกิ้ลว์เอาได้ไม่ยาก แต่ผมอยากยกย่อหน้าหนึ่งจากบทสุดท้ายหน้า 369 ในงานเขียน ‘บนถนนของความเป็นหนุ่ม’ ที่บรุษผู้คงความหนุ่มตลอดกาลแนะนำตัวเองได้อย่างอ้อนทีน
“แม่อยากให้เป็นหมอ พ่ออยากให้เป็นวิศวกร
แต่ข้าพเจ้าอยากเป็นกุ๊ย
และบังเอิญเป็นกุ๊ยที่ชอบอ่านขุนช้าง – ขุนแผน และเรื่องประโลมโลกย์ของอุษณา เพลิงธรรม
ชอบไปฟังหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช พูดเวลาหาเสียง ชอบทำอะไรตามอารมณ์ฟุ้งเฟ้อจนอยู่บ้านไม่ได้ต้องออกมาร่อนเร่ไปตามกามลิขิต
จนจวนจะอดตายก็ไปได้เมียดีมีรถยนต์ แม่ยายรักเหมือนทำให้เกิดออกมาเอง แต่พ่อตาเกลียดบัดซบจนทุกวันนี้ เลยหันเหียนไปเป็นกุ๊ยชั้นแคลสสิค เที่ยวไนท์คลับ กินเหล้าฝรั่ง และชอบคบเมียคนอื่น หลงสนามม้าเหมือนพระรามหลงเมีย เกือบจะติดตารางหรือไม่ก็สะดุดตีนใครตายอยู่รอมมะร่อ…”
และเพื่อสดุดีความเมาอย่างแคลสซี่ จึงขอยกความสุนทรีย์ของการเสพย์สุราอย่างเสรีจากงานเขียนบางส่วนของพญาอินทรีให้ผู้อ่านได้มีอาการคอแห้งอยากวิสกี้ไปพร้อมกับเรา
___
1. “เพื่อนสนิทของข้าพเจ้าคือ แมนฮัตตัน และคอสโมโปลิแตน อย่างแรกกินแล้วเมาเจ้าชู้ดี อย่างหลังอ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง”
2. “ผู้ชายเหงาขึ้นมาจึงสร้างผู้หญิง อยู่มาหน่อยก็ชักจะกลุ้มก็เลยคิดหมักเหล้าเอาไว้กิน แล้วอีกตั้งเป็นนานถึงจะคิดออกว่าควรมียาแก้ปวดหัวอีกสักอย่าง…”
3. “คับแคบซักหน่อยนะครับ แต่เหล้าของเราทุกแก้วซื่อสัตย์เสมอ”
4. “อำนาจเหล้าและอำนาจของเงิน มันคือยาแก้ลืมทุกอย่างในโลกเว้นแต่…ลืมตัว คืนนี้จึงเป็นคืนที่จำอะไรไม่ค่อยได้เสียจริง”
5. “แม่เทพธิดาสีน้ำตาลปนทอง – ข้าพเจ้าหมายถึงเหล้าในแก้วนั้นแล้วอุ่นเจ้าหล่อนด้วยอุ้งมือ สูดกลิ่นอันชื่นใจแล้วจึงยกยกขึ้นจิบเข้าไปครั้งหนึ่งก่อน เคล้าเคลียอยู่ตามกระพุ้งแก้มและปลายลิ้นอย่างแสนเสน่หาแล้วจึงกลืนกิน…ชื่นใจ ชื่นใจ”
6. “อีกแก้วและอีกแก้ว มันช่างเป็นสื่อให้ทอดสนิทกับเมือง เท่ากับหยิบเอาความแปลกหน้าของตนไปวางไว้ที่อื่น ด้วยราคาเพียงไม่กี่เหรียญ”
7. “น่าภูมิใจนะ ที่ไหนๆ หาเหล้าปลอมกินยากเหมือนอะไร นอกจากกรุงเทพฯ ของคุณกับผม”
8. “มันค่อนข้างจำเป็นบ้างในสังคมตึงเครียด และการเดินทางไปร้านเหล้ามันง่ายกว่าไปโบสถ์ เราจึงพบตัวเองและเพื่อนพ้องในนั้นเกือบทุกเย็น…”
9. “เรียกแม่โขงมาหนึ่งในสี่ โซดาสอง”
10. “ดื่มให้ความขุ่นมัว และความโชคดีของเศรษฐีเมืองไทยบางคนที่รวยขึ้นมาอย่างหน้าด้านด้วยความคดโกง”
11. “ข้าพเจ้าเรียก ‘กิมเหล็ต’ ตามเคย ส่วนผสมของจินกับน้ำมะนาวและไอเย็นของน้ำแข็ง มันทำให้อารมณ์เฟ้อดีและที่ร้ายที่สุดหรือจะว่าดีที่สุดของมันก็ได้ มันเป็นคันเร่งราคะแบบนุ่มนวล ทีละน้อย – ทีละน้อยในเลือดที่ฉีดออกมาจากหัวใจ”
12. “ข้าพเจ้ารินเบียร์อย่างประณีตให้มีฟองเพียงเล็กน้อย มันถูกแช่ไว้จนเย็นสนิท ขณะที่ไหลจากปากขวดเป็นลำลงสู่แก้วและกระทบต้องแสงไฟมองเห็นเป็นสีน้ำตาลปนทองเข้มข้นเหมือนน้ำเชื่อม นี่คือสะพานทอดข้ามระหว่างมนุษย์กับบาปไงล่ะ”
13. “หล่อน (ไอ้แมงทับถามตัวเองว่าควรชื่ออะไร?) ดื่มอย่างไม่ผสมแม้แต่น้ำแร่หรือน้ำเปล่า El Toro Tequila ใสบริสุทธิ์รสร้อนแรงบาดคอราวกลืนมีดโกนชุบไฟ”
14. “หนุ่มสาวสองสามคู่ลุกขึ้นเต้นรำในระหว่างช่องแคบๆ ของกลุ่มเก้าอี้ ดื่มและดื่ม เคล้าคลึงและพร่ำกระซิบ ดื่มอีกและขอบใจคืนนี้ เก็บพรุ่งนี้ไว้ในกระเป๋าเสื้อกลัดรังดุมให้เรียบร้อย นี่ไม่ใช่วิธีสำเริงสำรวยกับชีวิตดอกหรือ”
15. “แม่หม้ายผัวเบื่อกำลังเช็ดน้ำตาด้วยเหล้าพื้นเมือง”
16. “ผมกินเหล้าแล้วชอบคิดถึงผู้หญิง เวลานี้ไม่อยากนึกถึงใครเสียด้วย”
17. “ดิฉันไม่รู้จริงๆ ผู้ชายคืออะไร?” / “เหล้ากำลังพูดหรือคุณพูดกันแน่” ข้าพเจ้าเลื่อนมือจากสีข้างลงมาเกาะสะเอว / “ไม่ใช่ทั้งสองอย่างแหละค่ะ บาปต่างหาก คุณกำลังคุยกับตัวบาปต่างหาก” / “บาปที่กอดได้ รู้จักหัวเราะ ผมชอบ”
18. “เขายกแก้วขึ้นดื่ม เมื่อถอนแก้วออกจากปากมีหยดน้ำตาแห่งความเอร็ดซึมออกมาเล็กน้อย มันดูช่างซาบซึ้งในรสของเหล้าและรสมิตรภาพที่วางอยู่บนพื้นฐานแห่งความเมา”
19. “ผมกินเหล้ามามากแล้วในชีวิต กินมามากกว่าลำธารบางสาย ผมเลยเบาๆ ลง เพื่อรักษาชีวิตไว้ให้ความรัก”
20. “บนถนนของความเป็นหนุ่ม – ที่ยังไม่เหน็ดเหนื่อยเมื่อล้า ขอขอบใจ เหล้า – ผู้หญิง – ยาเส้น – โรงแรม – โรงจำนำ”
—
’รงค์ วงษ์สวรรค์ (2475 – 2552)
—
เขียนให้แก่นิตยาร Esquire Thailand ฉบับ พ.ย. 2560
ขอบคุณภาพจาก waymagazine, punchdrink, oknation, marsfia472